– National Television System Committee (NTSC)
NTSC เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการตั้งมาตรฐานที่เกี่ยวกับโทรศัพท์และวีดีโอในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น โดยข้อมูลนี้เป็นการเข้ารหัสข้อมูลแบบสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้สร้างภาพด้วยเส้นในแนวนอน 525 เส้นต่อเฟรม อัตรา 30 เฟรม ต่อวินาที 16 ล้านสีและ Refresh Rate 60 Halt-Frame ต่อวินาที (Interlaced) ส่วนคอมพิวเตอร์ใช้ Progressive Scan (เฟรมต่อเฟรม)
– Phase Alternate Line (PAL)
PAL เป็นมาตรฐานของโทรทัศน์และวีดีโอ ที่นิยมใช้กันในแถบประเทศยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย อัฟริกาใต้ รวมทั้งประเทศไทย เป็นการสร้างภาพจากเส้นแนวนอน 625 เส้นต่อเฟรม ด้วยอัตรา 25 เฟรมต่อวินาที และแสดงภาพด้วยวิธี Interlacing (Refresh Rate 50 Halt-Frame ต่อวินาที)
– Sequential Color And Memory (SECAM)
SECAM เป็นมาตรฐานของการแพร่สัญญาณโทรทัศน์และวีดีโอที่ใช้กันในประเทศฝรั่งเศส ยุโรปตะวันออก รัสเซีย และตะวันออกกลาง จะทำการแพร่สัญญาณแบบอนาลอก ส่วนการสร้างภาพจะเป็น 819 เส้น ด้วยอัตราการรีเฟรช 25 เฟรมต่อวินาที
– High Definition Television (HDTV)
HDTV เป็นเทคโนโลยีของการแพร่ภาพโทรทัศน์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแสดงภาพที่มีความละเอียดสูง กำหนดให้มีความละเอียดของจอภาพเป็น 1280 x 720 พิกเซล ตามแบบ Progressive Scan
การผสมผสานระหว่างคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์
วีดีโอบนโทรทัศน์เป็นแบบ Analog Technology สำหรับแพร่สัญญาณภาพไปยังครัวเรือน คอมพิวเตอร์วีดีโอ อยู่บนพื้นฐาน Digital Technology
– ระบบการซ้อนภาพวิดีโอ (Video Overlay System)
ได้มีการนำวีดีโอและคอมพิวเตอร์มาใช้ร่วมกันเรียกว่า “Computer-Based Training(CBT)” จะใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเครื่องเล่นวิดีโอด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปบังคับการทำงานของเครื่องเล่นวีดีโอ แล้วแสดงผลบนจอภาพโทรทัศน์
ความแตกต่างระหว่างคอมพิวเตอร์วีดีโอและโทรทัศน์วีดีโอ
จอภาพคอมพิวเตอร์และจอโทรทัศน์ ใช้อัตราส่วน 4:3 แต่การสร้างภาพด้วยเส้นในแนวนอนจะใช้ 480 เส้น ไม่เท่ากับจอภาพโทรทัศน์และอัตราการรีเฟรชเป็น 66.67 Hz เมื่อส่งสัญญาณภาพที่มีขนาดใหญ่กว่าจอภาพโทรทัศน์ ขอบของภาพจะขยายตามขอบโค้งของจอโทรทัศน์ (Overscan) ตรงข้ามกับขนาดจอภาพคอมพิวเตอร์ จะแสดงภาพที่มีขนาดเล็กกว่าจอโทรทัศน์ (Underscan) ดังนั้นเมื่อแปลงภาพจากจอคอมพิวเตอร์ไปแสดงบนจอโทรทัศน์ขนาดของภาพจะไม่เต็มจอโทรทัศน์
การผลิตวีดีโอ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
– การวางแผน เป็นการกำหนดเรื่องราว ความยาวของเรื่องการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม เป็นต้น
– การถ่ายทำ เป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่งหรือเหตุการณ์เก็บไว้
– แคปเชอร์ (Capture) เป็นการถ่ายโอนข้อมูลทั้งภาพและเสียงที่ได้จากเทปวีดีโอ (VHS) มาบันทึกลงในฮาร์ดดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์
– การตัดต่อ เป็นการนำไฟล์หลายๆ ไฟล์มาต่อเรียงกัน โดยการเลือกภาพและเสียงที่ต้องการ การตัดต่อวีดีโอด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์จะได้งานที่มีคุณภาพดี
– การทำสื่อประสม สื่อที่นิยมกันคือ เทปวีดีโอ แผ่นวีซีดี แผ่นดีวีดี เป็นต้น
การบีบอัดวีดีโอ ยกตัวอย่างบางส่วน ดังนี้
– เจเพ็ก (JPEG) เป็นมาตรฐานการบีบอัดข้อมูลภาพสี ที่จะย่อภาพสีโดยให้คงรายละเอียดเดิมไว้ให้มากที่สุด
– Motion – JPEG เป็นมาตรฐานการบีบอัดข้อมูลภาพ โดยไม่ต้องการความละเอียดของภาพมากนัก
– CODEC นิยมใช้บีบอัดแบบ MPEG ,Indeo และ Cinepak
– MPEG (Moving Picture Express Group) เป็นมาตรฐานการบีบอัดสัญญาณภาพและเสียง โดยใช้ระบบ DCT
– Cinepak เป็นเทคโนโลยีการบีบอัดและการคลายข้อมูล ที่สามารถส่งข้อมูลวีดีโอ ได้ดีแต่ต้องใช้เวลานาน
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการผลิตวีดีโอ
– Macromedia Flash โปรแกรมสำหรับสร้างงานแอนิเมชั่น มัลติมีเดีย งานอินเตอร์เอคทีฟ และรองรับงานออนไลน์ต่างๆ
– Ulead Video Studio เป็นโปรแกรมตัดตัอต่อวีดีโอ Capture ภาพที่นำสัญญาณผ่านเข้ามาสามารถตัดต่อวีดีโอให้อยู่ในฟอร์แมต MPEG I , MPEG II , DV และ VCD ได้
– Adobe Photoshop โปรแกรมสำหรับตกแต่งรูปภาพ
– Windows Movie Maker โปรแกรมสำหรับใช้ในการตัดต่อภาพ มัลติมีเดียสตรีมมิ่งทั้งภาพและเสียงที่ได้จากการตัดต่อวีดีโอ และสามารถนำเข้าไฟล์ไม่ว่าจะเป็น *.avi , *.afs , *.MPEG , *.MPG , *.MPA เป็นต้น
– VirtualDub เป็นโปรแกรมที่ช่วยใส่ Feeling ต่างๆ ให้แก่ภาพ ช่วยในการลดเม็ดสีที่คล้ายเม็ดหิมะที่เกิดจากการตัดต่อภาพจาก TV หรือ TV จูนเนอร์ และสามารถทำการบีบอัดข้อมูลได้
– TMPGEnc หรือ TMPG II เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการดัดแปลงไฟล์ VDO แบบ *.avi ให้เป็น *.MPEG ได้ สามารถใช้โปรแกรม TMPGEnc ร่วมกับ VirtualDub ได้
– CyberLink VideoLive Mail เป็นโปรแกรมที่สามารถปรับแต่งภาพ และสนับสนุนการรับชมรายการโทรทัศน์ วีดีโอและบันทึกรายการโทรทัศน์หรือวีดีโอที่รับชมได้
– Flash เป็นโปรแกรมสำหรับพัฒนางานรูปแบบต่างๆ เช่น งานวีดีโอ งานมัลติมีเดีย งานเว็บแอพพลิเคชัน ระบบ e-Learning และระบบแอพพลิเคชันขนาดใหญ่